โรงเรียนคริสต์ศาสนศาสตร์แบ๊บติสต์ (สวนพลู)
02-286-0766
TH
EN
เกี่ยวกับสถาบัน
หลักข้อเชื่อ
ประวัติสถาบัน
วัตถุประสงค์และปรัชญา
คณะกรรมการส่งเสริมสถาบัน
คณาจารย์และเจ้าหน้าที่
ที่ตั้งและอาคาร
แผนที่การเดินทาง
หลักสูตรการเรียน
หลักสูตรคริสตศาสนศาสตร์ศึกษา(ตรี) B.Th.
หลักสูตรคริสต์ศาสนศาสตร์ศึกษา(โท) M.Div
คริสต์ศาสตร์ศึกษาโท Master of Theology Study (M.T.S.)
การให้คำปรึกษาในการอภิบาล Pastoral Counseling (CL.)
สมัครเรียน
ตารางเรียน
แจ้งความประสงค์สมัครเรียน
ดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบสมัครที่ต้องการวุฒิการศึกษา
ดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบสมัครที่ไม่ต้องการวุฒิการศึกษา(Audits)
ค่าลงทะเบียน
วารสารวิชาการและวิทยานิพนธ์
วารสารวิชาการ TBTS
รายชื่อวิทยานิพนธ์ TBTS
สนทนาปัญหาศาสนศาสตร์
หนังสือแนะนำ
ถวายเพื่อพันธกิจ
บทความและเอกสารประกอบการเรียน
หน้า 1
หน้า 2
หน้า 3
ศิษย์เก่า
ใบสมัครสมาชิกชมรมศิษย์เก่า
หลักสูตร LLT
หลักสูตร LLT ปี A
เพิ่มเติม
โรงเรียนคริสต์ศาสนศาสตร์แบ๊บติสต์ (สวนพลู)
02-286-0766
เกี่ยวกับสถาบัน
หลักข้อเชื่อ
ประวัติสถาบัน
วัตถุประสงค์และปรัชญา
คณะกรรมการส่งเสริมสถาบัน
คณาจารย์และเจ้าหน้าที่
ที่ตั้งและอาคาร
แผนที่การเดินทาง
หลักสูตรการเรียน
หลักสูตรคริสตศาสนศาสตร์ศึกษา(ตรี) B.Th.
หลักสูตรคริสต์ศาสนศาสตร์ศึกษา(โท) M.Div
คริสต์ศาสตร์ศึกษาโท Master of Theology Study (M.T.S.)
การให้คำปรึกษาในการอภิบาล Pastoral Counseling (CL.)
สมัครเรียน
ตารางเรียน
แจ้งความประสงค์สมัครเรียน
ดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบสมัครที่ต้องการวุฒิการศึกษา
ดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบสมัครที่ไม่ต้องการวุฒิการศึกษา(Audits)
ค่าลงทะเบียน
วารสารวิชาการและวิทยานิพนธ์
วารสารวิชาการ TBTS
รายชื่อวิทยานิพนธ์ TBTS
สนทนาปัญหาศาสนศาสตร์
หนังสือแนะนำ
ถวายเพื่อพันธกิจ
บทความและเอกสารประกอบการเรียน
หน้า 1
หน้า 2
หน้า 3
ศิษย์เก่า
ใบสมัครสมาชิกชมรมศิษย์เก่า
หลักสูตร LLT
หลักสูตร LLT ปี A
เพิ่มเติม
TH
EN
หน้าแรก
บทความทั้งหมด
สาระดีๆ จากศิษย์เก่า
Think Like BANDHIT/Peter's fish
Think Like BANDHIT/Peter's fish
631 จำนวนผู้เข้าชม
|
คิดอย่างบัณฑิต โดย บัณฑิต ดาแว่น
Peter’s fish
ปลาเปโตร
ปลานิลทอดประกบด้วยผักดองนิดๆ และน้ำจิ้ม เป็นอาหารเที่ยงมื้อพิเศษ ระหว่างการเดินทางตามรอยพระคัมภีร์ที่อิสราเอล เมื่อพฤษภาคม ปี 2019 ทำให้คณะของเราร้อยกว่าชีวิต รู้สึกตื่นเต้น
ผมเองกินด้วยความเอร็ดอร่อย ไม่รู้ว่าปลาที่ทะเลสาบกาลิลีอร่อย หรือ พ่อครัวเขาปรุงได้ดี หรือว่าเป็นเพราะหิวจนตาลาย !! ไม่ว่าอะไรในเพลานี้ก็ต้องอร่อยเป็นแน่แท้ กว่าจะได้กินมื้อเที่ยงครั้งนี้ก็บ่ายสองกว่าๆแล้ว เพราะช่วงเช้าเดินทางจากที่พักไปล่องเรือโบราณที่ทะเลสาบกาลิลี ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่อยู่ทางตอนเหนือของอิสราเอล ทะเลแห่งนี้มีปลาชุกชุม มีเรื่องราวเกี่ยวกับองค์พระเยซูคริสต์และลูกศิษย์ของพระองค์ ตลอดจนประชาชนบริเวณรอบ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์พระกิตติคุณทั้งสี่เล่ม ส่วนเรื่องราวประสบการณ์ล่องเรือที่กาลิลีนั้น ผมได้เขียนไว้บางประเด็นแล้วติดตามอ่านกันได้
ย้อนกลับไปทบทวนความรู้สึกในครั้งนั้นเกี่ยวกับอาหารมื้อพิเศษ คือกว่าจะได้กินทำท้องไส้ปั่นป่วน เพราะนอกจากจะมาถึงเกินเวลาเที่ยงแล้ว ยังต้องรอคิวอาหารอีกสักพัก แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกแย่แต่ประการใด เพราะการมาครั้งแรกในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้มีเรื่องที่ทำให้ตื่นเต้นเกินกว่าที่จะบ่นถึงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ยิ่งระหว่างทางบนรถบัส มัคคุเทศก์คนขยันของเราก็มีพลังดีเหลือเกิน
ยังอธิบายประวัติศาสตร์ของสถานที่ บุคคล และส่วนประกอบของเรื่องราวต่างๆ ไม่ขาดสาย เช่น อธิบายถึงการเทศนาบนภูเขาของพระเยซู ที่ทรงใช้เนินเขาแถบทะเลกาลิลีสั่งสอนประชาชนที่ติดตามนับหมื่นๆ คน แม้สมัยเมื่อ 2 พันปีก่อน ไม่ได้มีเครื่องขยายเสียง ไม่มีโปรเจ็คเตอร์ หรือเครื่องมือสื่อสารที่ฉับไวอย่างทุกวันนี้ แต่น่าอัศจรรย์คือ คำสอนของพระเยซูยังเป็นที่ประทับใจ จดจำ และส่งต่อมาถึงเราทุกวันนี้อย่างเที่ยงตรง คำถามคือคนจำนวนมากอย่างนั้น สามารถได้ยินเสียงพระเยซูพูดได้อย่างไร
รู้ได้อย่างไรว่าพระองค์จะเดินทางไปที่ไหน เมื่อไหร่
จากการสังเกตพบว่าสภาพพื้นที่ที่เป็นเนินคล้ายอัฒจันทร์ของสนามกีฬา ประกอบกับมีโขดหิน หินลาดใหญ่ๆ อาจช่วยสะท้อนเสียง สามารถช่วยให้ได้มองเห็นและได้ยินไปไกล แต่ทั้งนี้คงไม่ใช่ทั้งหมื่นๆ คนได้ยินพร้อมกันทีเดียว เป็นไปได้ที่พระเยซูเล่าเรื่องให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งฟัง แล้วมีการส่งต่อเรื่องราวกันไป
จากนั้นมีการสืบเสาะค้นหาข้อมูลและรวบรวมจนกลายมาเป็นบันทึกเรื่องราวในพระกิตติคุณของพระเยซู นายแพทย์ลูกา ผู้บันทึกพระกิตติคุณลูกายืนยันไว้เช่นนั้น (ลก.1.1-4) ส่วนมาระโก ชายหนุ่มผู้บันทึกพระกิตติคุณมาระโกที่มีความกระชับฉับไวเหมือนหนังจีนกำลังภายใน เขาได้รับข้อมูลมาจากอาจารย์เปโตรซึ่งเป็นลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดพระเยซู มัทธิว เป็นผู้ติดตามด้วยตนเองประกอบกับมีความเข้าใจในธรรมเนียมยิวของตนเองจึงเขียนที่มาที่ไปของพระเยซูเป็นที่จับใจของคนยิว และยอห์น ก็เช่นกันเป็นลูกศิษย์ที่กล่าวว่าพระเยซูรักและไว้ใจมาก ได้บันทึกในอีกมุมมองที่ทำให้เราเข้าใจหลักคิดที่มีต่อพระเยซูแบบลึกซึ้ง(ยน.1.1-14)
อย่างไรก็ตามหากมองในมุมของความเป็นพระเจ้าของพระเยซูแล้ว ไม่มีอะไรที่ยากเกินไปที่พระองค์จะทรงกระทำไม่ได้ คำสอน คำพูด เรื่องราวของพระเยซูจากวันนั้นเมื่อสองพันปีก่อนจนถึงวันนี้และตลอดไปจะยังคงอยู่และเป็นความจริงที่ช่วยให้คนได้ยินและเมื่อเชื่อก็จะเป็นอิสระจากสิ่งชั่วร้ายได้เสมอ
ได้ยินเสียงว่าปลานิลทอดกำลังจะมาถึงคิวผมแล้ว !
กลับมาเรื่องอาหารเที่ยงที่มีเพียงปลานิลทอดตัวเดียวบนจาน ที่ทำให้ผมหิวจนไม่รีรออะไรแล้ว
หลังจากโมทนาพระคุณแล้วลงมือทันที จนลืมธรรมเนียมที่ควรปฏิบัติคือถ่ายรูปก่อนกิน !! ด้วยเหตุนั้นภาพที่ได้คือ จานข้าวของผมมีรอยถูกตักกินไปบ้างแล้ว ไม่ว่ากันนะครับ มันหิวมากจริง ๆ เมื่อกินเสร็จเขาตบท้ายด้วยผลอินทผลัมสดสองสามลูก ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่ได้ลิ้มลอง
คนท้องถิ่นเขาแนะนำว่าอินทผลัมสดจะช่วยลดกลิ่นคาวหลังกินปลาได้เป็นอย่างดี ผมเชื่อทุกอย่างละครับ ความรู้สึกหวานฉ่ำอมเปรี้ยวฝาดนิดๆ ของอินทผลัมสดทำให้ผมประทับใจมิรู้ลืม ยิ่งบรรยากาศที่ร้านอาหารแห่งนี้ที่ชื่อว่า “Peter’s Restaurant” ทำให้นั่งกินไปพร้อมกับวิวทิวทัศน์ของทะเลกาลิลีที่อยู่ตรงหน้า ก็ทำให้รู้สึกถึงกลิ่นอายของพระเยซูคริสต์สถิตท่ามกลางชีวิตของเราได้มากขึ้น
เพราะแถบนี้พระเยซูใช้เวลาในการทำพระราชกิจมากเป็นพิเศษ
ใครจะไปรู้พื้นดินที่เราเดินไปนั้นอาจเป็นรอยพระบาทเมื่อสองพันปีก่อนก็ได้ แม้ขณะที่เดินตามทางดินไปร้านอาหาร มัคคุเทศก์ผู้มากความสามารถยังเดินไปหักกิ่งต้นหนามชนิดหนึ่ง คล้ายต้นพุทราบ้านเรา แต่หนามยาวกว่า พร้อมทั้งอธิบายว่าอาจเป็นต้นหนามชนิดเดียวกับที่ทหารโรมนำมาทำเป็นมงกุฎหนามสวมพระเศียรของพระเยซูจนเลือดไหลอาบลงมาในช่วงเวลาแห่งการทนทุกข์ก็เป็นได้
ว่าแล้วก็ส่งให้พวกเราเอามือไปแตะความแหลมคมของหนามนั้นดู ผมสังเกตว่าสุดท้าย อาจารย์ ดร.วินิจ ได้นำหนามนั้นไปและเห็นท่านนำมาคุยกันต่อหลังจากขึ้นรถบัสอีกครั้ง
หลังจากกินอย่างพอใจแล้วใครจะลงไปถ่ายรูปที่ชายหาดของกาลิลีก็ตามอัธยาศัย
ผมเองไม่พลาดเช่นกัน แถมยังเก็บก้อนหินบางก้อนที่เหมาะมือมาเป็นที่ระลึกด้วย
แลกเปลี่ยนกันถ่ายรูปทั้งแบบเดี่ยว คู่ และหมู่อย่างชื่นใจทีเดียว
ขอบคุณพระเจ้าสำหรับ เปโตร (Peter) ลูกศิษย์ของพระเยซูคริสต์ที่ทำให้ผมได้มาย้อนรอยพระบาทในครั้งนี้ ได้กินอาหารมื้อพิเศษแม้ทางกายภาพจะเป็นเพียงแค่ปลานิลตัวหนึ่ง
ที่ปัจจุบันนี้จะหากินที่ไหนก็ได้ในราคาถูกๆ
จากข้อมูลพบว่า ปลานิล เป็นอาหารที่ให้โปรตีนราคาประหยัดชั้นดีแก่คนไทย เพราะพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ได้รับปลาชนิดนี้เป็นของฝากพระสหายของท่านจากญี่ปุ่น เมื่อปี พ.ศ. 2508 ต่อมาได้ทรงขยายพันธุ์และแจกจ่ายไปยังประชาชนจนกลายเป็นปลาท้องถิ่นที่เหมาะสมกับคนไทยไปแล้ว
การตั้งชื่อว่าปลานิล อาจมาจากแหล่งที่มาจากแม่น้ำไนล์และพ้องกับชื่อพระสหายที่ออกเสียง “นิน”
คือสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ
ปลานิลที่ผมกินวันนั้นมันยิ่งกว่าการกินอาหารปกติ เพราะกินด้วยใจขอบพระคุณ
ในดินแดนแห่งพระสัญญาโดยพระคุณของพระเจ้าที่มีต่อชีวิตคนธรรมดาคนหนึ่งอย่างเช่นผม
ที่ทรงเลือกสรรให้เป็นผู้รับใช้ของพระองค์
ท่านเปโตร หรือ Saint Peter ที่คนทั่วโลกต่างให้เกียรติท่านในฐานะผู้รับใช้ของพระเจ้า เป็นตัวอย่างหนึ่งที่มาจากชาวประมงธรรมดา หาเช้ากินเย็น ยังได้เป็นคนสนิทของพระเยซู เมื่อเขาตอบสนองการทรงเรียกอย่างแน่วแน่ เมื่อวันหนึ่งพระเยซูเสด็จมาที่เรือของเปโตร ขอใช้เรือเพื่อสั่งสอนประชาชน
จากนั้นสั่งให้ออกไปจับปลา และได้ปลากลับมาอย่างล้นเหลือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นส่งผลให้เปโตรรู้ว่าพระเยซูเป็นองค์พระผู้ช่วยให้รอด แม้ไม่เข้าใจทั้งหมด แต่สิ่งที่เขาทำคือละเครื่องมือจับปลาแล้วติดตามพระเยซูไป จากผู้จับปลากลายมาเป็นผู้จับคนตามคำบัญชา ที่คนทั้งโลกยังจับใจในคำปราศรัยครั้งแรกของท่านที่เยรูซาเล็ม และช่วยให้ผู้คนสามพันคนยอมรับคำของพระเจ้าในวันเดียวได้
แม้เจ้าหน้าที่ของทางการยังประหลาดใจว่า คนพวกนี้เป็นเพียงคนสามัญแต่ทำไมพวกเขาจึงพูดได้ดีถึงเพียงนี้ คำตอบที่เขายอมรับและพูดมาเองคือ เพราะพวกเขาอยู่กับพระเยซูนั่นเอง
แม้มีบางช่วงที่เปโตรเองมีความหวั่นไหวและอยากหนีไปให้ไกลจากเส้นทางของพระเยซู
แต่สุดท้ายท่านเองยอมตายในรูปแบบถูกตรึงบนกางเขนแบบกลับหัวลงมา
เพื่อจะไม่ให้เทียบเท่ากับพระอาจารย์ที่ถูกตรึงกางเขนเช่นกัน
อะไรที่ทำให้คนธรรมดาคนหนึ่งที่การศึกษาน้อย ขาดทักษะการพูด แต่กลับเป็นคนที่พระเจ้าใช้ให้กล่าวถ้อยคำของพระองค์อย่างเกิดผลดี และยังเป็นที่ยอมรับของประชาชาติตลอดมา
คำตอบมีในพระคัมภีร์ที่บันทึกเรื่องราวชีวิตของเปโตรไว้ ยิ่งย้ำชัดในพระกิตติคุณยอห์นบทที่ 21 ท่านยอห์น เพื่อนสนิทของเปโตรบันทึกไว้ว่า เปโตรได้ยืนยันถึงความจงรักภักดีของท่านต่อพระเยซูคริสต์หลังจากการเป็นขึ้นมาจากตายและปรากฎตัวให้พวกเขาได้เห็นก่อนเสด็จสู่สวรรค์
และท่านได้เล่าประสบการณ์นี้ให้มาระโกลูกศิษย์ของท่านบันทึกไว้ ท่านเองยังเขียนด้วยตนเองอีกสองฉบับ ถึงประสบการณ์และความเชื่อที่มีต่อพระเยซูคริสต์นั้นเป็นสิ่งที่ล้ำค่าต่อชีวิตอย่างแท้จริง
กินปลานิลมื้อเที่ยงเพียงมื้อเดียวในวันนั้น ยังสะท้อนถึงชีวิตจนถึงทุกวันนี้อยู่เสมอ
ว่าพระเจ้าสามารถใช้ชีวิตของคนธรรมดา ที่อาสารับใช้พระองค์อย่างอัศจรรย์ได้
การกินปลานอกจากมีคุณค่าทางโภชนาการต่อสุขภาพ ช่วยให้สมองดี มีกำลังที่แข็งแรงแล้ว
ยังมีผลดีต่อชีวิตเมื่อคิดถึงความจริงของพระเยซูคริสต์
กินปลานิลทอด ราดน้ำจิ้มสามรส สักมื้อมั้ยครับ !
Powered by
MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
นโยบายความเป็นส่วนตัว
และ
นโยบายคุกกี้
ตั้งค่าคุกกี้
ยอมรับทั้งหมด